วัดพระเหลาเทพนิมิต ภายในบริเวณวัดมีอุโบสถซึ่งมีใบเสมาล้อมรอบทั้งหมด 24 ใบ ด้านข้างอุโบสถมีสิมเก่าที่ได้รับการบูรณะแล้ว วัดพระเหลาเทพนิมิตตามประวัติระบุว่า พระครูธิ ภิกษุแก้ว ภิกษุอิน สร้างวัดขึ้นใน พ.ศ. 2254 เดิมชื่อวัด ศรีโพธิ์ชยารามคามวดี ริมบึงใหญ่กุดพระเหลา ได้สร้างโบสถ์และพระประธานในปี พ.ศ.2263ฐานและผนังก่อด้วยอิฐถือปูน เสาไม้เนื้อแข็ง กลม หลังคามุงด้วยกระดานไม้ใช้เวลาก่อสร้างโบสถ์และพระประธาน 13 ปี 7 เดือน 3 วัน จากประวัติวัดพระเหลาเทพนิมิตที่สร้างวัดขึ้นใน พ.ศ. 2254 รวมถึงโบสถ์และพระประธานที่สร้างในปี พ.ศ.2263 ทำให้ทราบว่าวัดดังกล่าวสร้างมาแล้ว 305 ปี ซึ่งสร้างขึ้นในช่วงสมัยล้านช้างและมีการใช้งานจนถึงปัจจุบัน
สิ่งสำคัญภายในวัด มีดังนี้
1.อุโบสถ ปัจจุบันก่อด้วยอิฐถือปูน ประกอบด้วย บันไดทางขึ้นของอาคารหลังนี้ ตกแต่งด้วยมกรคาบนาค โดยมีลักษณะเป็นอาคารเครื่องไม้ มุงแป้นไม้หน้าบันลายเถา ตรงกลางมีรูปราหูกลืนจันทร์ ระหว่างเถามีรูปเทพพนมและหนุมาน ประตูลักษณะเป็น 3 ช่อง เป็นซุ้มคล้ายปราสาท ใต้ซุ้มมีพญานาคขนาด 9.30?15.5 เมตร ภายนอกล้อมรอบด้วยใบเสมาจำนวน 24 ใบ ขนาดของอุโบสถ 160 เมตร x 170 เมตร
2. พระพุทธรูปปางมารวิชัยรูปแบบศิลปะลาว ตามประวัติกล่าวว่า พระครูธิเจ้าอาวาสให้ภิกษุแก้ว ภิกษุอิน พระซาพรหม เป็นผู้ขัดเกลาหล่อเหลาให้งดงามยิ่ง ชาวบ้านจึงตั้งชื่อว่า พระเหลา ราวปี พ.ศ. 2441 พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ จึงเสริมนามวัดว่า วัดพระเหลาเทพนิมิต
3.หอแจก (ศาลาการเปรียญ) สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2463 มีลักษณะแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเป็นอาคารก่ออิฐฉาบปูนหมัก ฐานแอวขันปากพานโบกคว่ำ โบกหงาย หลังคาทรงปั้นหยาหน้าจั่วปีกนก มีมุขบันไดขึ้นด้านหน้าและด้านหลังเบี่ยงซ้ายห้องที่สอง ราวบันไดตกแต่งด้วยปูนปั้นรูปมกรคาบนาคและตัวมอมมีลูกอ่อนภายในศาลาโล่งเสาเป็นเสาก่ออิฐฉาบปูนเสามีบัวที่ฐานและหัวเสา ฝ้าเพดานและเครื่องหลังคาทำด้วยไม้ เชิงชายตกแต่งด้วยไม้ฉลุลาย ยอดและหางปั้นลมตกแต่งด้วยไม้กลึง
4. สระน้ำโบราณ ตรงกลางสร้างเป็นหอพระไตรปิฎก สร้างเมื่อ พ.ศ. 2535